ในช่วงที่อากาศหนาวหรือร่างกายอ่อนแอจากการเป็นหวัด Cookpad อยากให้เพื่อนๆ เลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมจากผักผลไม้ช่วยสร้างความอบอุ่นและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี วัตถุดิบยอดนิยมที่มักนำมาใช้ในอาหารสำหรับฤดูหนาวหรือช่วงที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายนั้นมีหลากหลายมากๆ มาดูกันดีกว่า ว่าจะมีอะไรบ้าง
ขิง
วัตถุดิบยอดนิยมในครัวไทยที่มีทั้งคุณสมบัติช่วยเพิ่มรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพ ขิงมีฤทธิ์ร้อน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต บรรเทาอาการคัดจมูก และช่วยลดเสมหะ
วิธีการเลือกซื้อขิงสด
- ขิงควรมีเปลือกเรียบ สีเนื้อในขาวเหลือง ไม่มีรอยช้ำหรือราขึ้น
- รากขิงควรแน่น ไม่เหี่ยว ไม่มีกลิ่นเหม็น
- หากต้องการขิงอ่อน ให้เลือกขิงที่มีเปลือกบาง สีอ่อน สามารถใช้ทำอาหารที่ต้องการรสไม่เผ็ดจัด
- ขิงแก่จะมีเปลือกหนา สีเข้ม และกลิ่นแรง เหมาะสำหรับทำเครื่องดื่มหรืออาหารที่ต้องการรสจัด
- ลองหักหรือหั่นขิง หากเสียงกรอบและหักง่ายแสดงว่าสด
วิธีการเก็บรักษาขิง
ขิงสดที่ยังไม่ได้หั่น เก็บในถุงพลาสติกหรือห่อด้วยกระดาษแล้วใส่ในช่องผักของตู้เย็น ขิงจะคงความสดได้นานถึง 2-3 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการเก็บขิงในที่ชื้นหรืออุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา
ขิงหั่นหรือขูดแล้ว เก็บในกล่องพลาสติกหรือแก้วที่มีฝาปิดมิดชิด ใส่ในตู้เย็น จะเก็บได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ หากต้องการเก็บขิงไว้นานขึ้น ให้แช่ในช่องแช่แข็ง
แช่ขิงในน้ำมันหรือน้ำส้มสายชู สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บรักษาขิงเพื่อใช้นานหลายเดือน สามารถแช่ในน้ำมันพืชหรือน้ำส้มสายชูในภาชนะที่ปิดสนิท
อบแห้งหรือบดเป็นผง ขิงที่อบแห้งหรือบดเป็นผงสามารถเก็บไว้ได้นานกว่า เก็บในขวดแก้วหรือภาชนะสุญญากาศในที่แห้งและเย็น
เคล็ดลับเพิ่มเติม: หากขิงเริ่มมีรากงอกออกมา แต่ยังไม่ช้ำหรือเสีย สามารถนำไปปลูกเพื่อให้ได้ขิงสดใหม่ และอย่าล้างขิงก่อนเก็บ เพราะความชื้นอาจทำให้ขิงเน่าเร็วขึ้น
เมนูแนะนำ:
กระเทียม
กระเทียมเป็นวัตถุดิบสำคัญในครัวที่เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับอาหาร อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยา อย่างสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อไวรัส
กระเทียมมีกี่แบบ
กระเทียมไทย
- ลักษณะ: หัวเล็ก กลีบเล็ก มีเปลือกบาง สีขาวอมม่วง
- กลิ่น: มีกลิ่นหอมแรง
- รสชาติ: เผ็ดร้อน เหมาะสำหรับทำอาหารไทย เช่น ผัด ต้มยำ
กระเทียมจีน
- ลักษณะ: หัวใหญ่ กลีบใหญ่ เปลือกสีขาวเนียน
- กลิ่น: กลิ่นอ่อนกว่ากระเทียมไทย
- รสชาติ: ไม่เผ็ดร้อนเท่ากระเทียมไทย เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการรสอ่อน
กระเทียมโทน
- ลักษณะ: หัวเล็กที่มีเพียง 1 กลีบ (ไม่มีการแบ่งเป็นกลีบย่อย)
- กลิ่น: กลิ่นหอมเฉพาะตัว
- รสชาติ: มีรสหวานอมเผ็ด นิยมนำมาดองหรือต้มพร้อมอาหาร เช่น ไก่ตุ๋นกระเทียมโทน
กระเทียมหัวดำ (Black Garlic)
- ลักษณะ: กระเทียมที่ผ่านกระบวนการหมักจนเปลือกกลายเป็นสีดำ
- กลิ่น: มีกลิ่นหอมหวานคล้ายคาราเมล
- รสชาติ: รสหวานนุ่ม ไม่เผ็ด นิยมใช้ในอาหารเพื่อสุขภาพ
วิธีการเลือกซื้อกระเทียม
- สังเกตสีและลักษณะ กระเทียมควรมีสีขาวหรือขาวอมม่วงตามชนิดของมัน เปลือกต้องแน่น ไม่หลุดร่อน หรือมีรอยช้ำ
- จับดูเนื้อ กระเทียมต้องมีน้ำหนัก เบาเกินไปอาจแห้งหรือเก่า เมื่อบีบควรรู้สึกแน่น ไม่มีการยุบตัว
- ตรวจสอบกลิ่น ควรมีกลิ่นหอมเฉพาะของกระเทียม หากมีกลิ่นเหม็นหรือเปรี้ยว แสดงว่าอาจเน่าเสีย
วิธีการเก็บรักษากระเทียม
เก็บในที่แห้งและเย็น วางกระเทียมในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้นเก็บในถุงตาข่ายหรือภาชนะโปร่งเพื่อป้องกันการอับชื้น
ไม่แช่ในตู้เย็น กระเทียมที่แช่ในตู้เย็นอาจเกิดความชื้นและขึ้นราได้
กระเทียมโทนดอง สำหรับกระเทียมโทน นิยมนำมาดองในน้ำส้มสายชู น้ำตาล และเกลือ สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือน
กระเทียมปอกเปลือก หากปอกเปลือกแล้ว ให้เก็บในภาชนะที่มีฝาปิดและแช่ในตู้เย็น ใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์
กระเทียมแช่แข็ง สามารถปั่นหรือสับกระเทียมแล้วแช่แข็งในถาดน้ำแข็ง ใช้ง่ายและเก็บได้นาน
เมนูแนะนำ:
มะนาว
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีความหลากหลายและมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะตัวและรสชาติที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน มะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และช่วยลดน้ำมูก
มะนาวมีกี่แบบ
มะนาวแป้น
- เปลือกบาง สีเขียวอ่อนถึงเหลือง
- น้ำเยอะ กลิ่นหอม รสเปรี้ยวจัด
เหมาะสำหรับ: ใช้ปรุงอาหาร เช่น ต้มยำ น้ำพริก น้ำจิ้ม หรือทำน้ำมะนาว
มะนาวไข่
- รูปร่างกลมรี คล้ายไข่ เปลือกหนากว่ามะนาวแป้น
- น้ำไม่เยอะเท่ามะนาวแป้น แต่มีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย
เหมาะสำหรับ: การปรุงอาหารทั่วไป และใช้ในเมนูที่ต้องการกลิ่นหอมพิเศษ
มะนาวหวาน
- รสชาติไม่เปรี้ยวจัด มีความหวานเล็กน้อย
- มักมีสีเขียวเข้มหรือเหลืองอ่อน
เหมาะสำหรับ: การทำน้ำมะนาวหรือใส่ในขนม
มะนาวนิ้วมือ (Finger Lime)
- รูปร่างยาวรีคล้ายนิ้วมือ
- มีเนื้อด้านในที่คล้ายไข่ปลาคาเวียร์ รสเปรี้ยวอมหวาน
เหมาะสำหรับ: ใช้ตกแต่งอาหาร เครื่องดื่ม หรือของหวาน
มะนาวฝรั่ง (Lime)
- เปลือกหนา สีเขียวสด รสเปรี้ยวอมหวาน
- มีขนาดใหญ่กว่ามะนาวไทย
เหมาะสำหรับ: เครื่องดื่มค็อกเทล เช่น มาการิต้า หรือใช้แต่งกลิ่นอาหาร
วิธีการเลือกซื้อมะนาว
เลือกผลที่หนักแน่น: น้ำหนักที่มากแสดงว่ามีน้ำเยอะ
ผิวตึงเรียบ: เปลือกไม่ควรเหี่ยวย่นหรือมีรอยช้ำ
สีสดใส: เลือกสีเขียวหรือเหลืองอ่อนตามชนิดของมะนาว
ดมกลิ่น: มะนาวที่ดีควรมีกลิ่นหอมสดชื่น
วิธีการเก็บรักษามะนาว
เก็บในอุณหภูมิห้อง: วางในตะกร้าหรือถาดในที่เย็นและมีอากาศถ่ายเท มะนาวสามารถอยู่ได้นาน 1-2 สัปดาห์
เก็บในตู้เย็น:ใส่ในถุงซิปล็อคหรือกล่องเก็บอาหาร แล้วเก็บในช่องผัก สามารถเก็บได้ 2-4 สัปดาห์
แช่แข็ง: คั้นน้ำมะนาวแล้วใส่พิมพ์น้ำแข็ง เก็บในช่องแช่แข็งได้นานหลายเดือน หั่นเป็นแว่นหรือชิ้นเล็ก ๆ ใส่ถุงซิปล็อคและแช่แข็ง
การดอง: ดองมะนาวด้วยเกลือหรือน้ำตาลเพื่อเก็บไว้ใช้นานขึ้น
เมนูแนะนำ:
ตะไคร้
ตะไคร้เป็นสมุนไพรยอดนิยมในครัวไทยที่มีทั้งกลิ่นหอมและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด และเพิ่มรสชาติให้อาหาร การเลือกซื้อและเก็บรักษาตะไคร้อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ยาวนานและคงความสดใหม่
วิธีการเลือกซื้อตะไคร้
เลือกที่ลำต้นอวบแน่น:
ตะไคร้ที่ดีควรมีลำต้นอวบอิ่ม ไม่เหี่ยวย่น และไม่แห้งกรอบ
สังเกตสี:
ส่วนโคนลำต้นควรมีสีขาวอมเขียวอ่อน ใบด้านบนควรเป็นสีเขียวสด ไม่เหลืองหรือเหี่ยวเฉา
กลิ่นหอม:
เมื่อลองดมที่ลำต้น ควรมีกลิ่นหอมสดชื่นของตะไคร้ ไม่มีกลิ่นหมักหรือกลิ่นเหม็นอับ
ไม่มีรอยช้ำหรือโรค:
หลีกเลี่ยงตะไคร้ที่มีรอยช้ำ จุดดำ หรือมีเชื้อราขึ้น
วิธีการเก็บรักษาตะไคร้
เก็บในตู้เย็น (สำหรับใช้งานระยะสั้น):
- ตัดใบส่วนบนออกและล้างให้สะอาด
- เช็ดให้แห้งแล้วห่อด้วยพลาสติกหุ้มอาหารหรือเก็บในถุงซิปล็อก
- เก็บไว้ในช่องผักของตู้เย็น จะช่วยคงความสดไว้ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์
เก็บในช่องแช่แข็ง (สำหรับระยะยาว):
- ล้างตะไคร้ให้สะอาดและตัดเป็นท่อน ๆ ตามต้องการ
- ใส่ในถุงซิปล็อกหรือกล่องพลาสติกที่ปิดสนิท
- เมื่อต้องการใช้ ให้นำออกจากช่องแช่แข็งและใช้ทันทีโดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง
ทำตะไคร้แห้ง:
- ซอยตะไคร้เป็นแว่นบาง ๆ แล้วตากแดดจนแห้ง
- เก็บใส่ขวดแก้วหรือกล่องที่ปิดสนิท เก็บไว้ในที่แห้งและไม่มีความชื้น
ดองหรือน้ำมันตะไคร้:
- ตะไคร้สามารถนำมาดองในน้ำมันมะกอกหรือน้ำส้มสายชู เพื่อใช้เป็นเครื่องปรุงรสในอาหารและเพิ่มระยะเวลาเก็บรักษา
ข้อควรระวังในการเก็บรักษา หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ อย่าเก็บในถุงพลาสติกที่ปิดไม่สนิท เพราะอาจทำให้ตะไคร้เหี่ยวเร็ว
เมนูแนะนำ:
หอมแดง
เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในครัวไทย มีบทบาททั้งในอาหารคาว น้ำพริก และอาหารสมุนไพร หอมแดงไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว แต่ยังแบ่งออกได้หลากหลายตามลักษณะและพื้นที่ปลูก และหอมแดงยังช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก ลดไข้
ชนิดของหอมแดง
หอมแดงไทย (หอมแดงพื้นเมือง)
- ลักษณะ: หัวเล็ก กลิ่นหอมแรง เนื้อแน่น
- พื้นที่ปลูก: นิยมปลูกในภาคอีสาน เช่น จังหวัดศรีสะเกษและร้อยเอ็ด
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับน้ำพริก ต้มยำ หรืออาหารที่ต้องการกลิ่นหอมเข้มข้น
หอมแดงอินเดีย
- ลักษณะ: หัวใหญ่กว่า เปลือกบาง สีออกแดงม่วง เนื้อไม่แน่นเท่าหอมแดงไทย
- พื้นที่ปลูก: นิยมนำเข้าจากอินเดียหรือประเทศแถบเอเชียใต้
- การใช้งาน: ใช้ในอาหารที่ต้องการหอมแดงปริมาณมาก เช่น แกงอินเดียหรือเครื่องแกง
หอมแดงจีน
- ลักษณะ: หัวใหญ่ เปลือกสีม่วงอมแดง เนื้อนิ่ม กลิ่นไม่แรง
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการกลิ่นอ่อน เช่น อาหารเจ
วิธีการเลือกซื้อหอมแดง
เลือกตามลักษณะภายนอก: เปลือกต้องแห้งและตึง ไม่เปียกหรือมีเชื้อรา หัวหอมต้องแน่นและแข็ง ไม่เหี่ยวหรือมีรอยบุบ
ดูขนาด: หากต้องการกลิ่นหอมแรง เลือกหัวขนาดเล็ก หากต้องการเนื้อเยอะ เลือกหัวขนาดใหญ่
สีของเปลือก: เปลือกควรมีสีแดงสดหรือม่วง ไม่ซีดหรือมีรอยด่าง
วิธีการเก็บรักษาหอมแดง
เก็บในที่แห้งและเย็น:
- เก็บในที่ที่มีการระบายอากาศดี เช่น ตะกร้าหรือตาข่าย
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น เพราะจะทำให้หอมแดงงอกหรือเน่าเร็ว
แขวนหรือวางในภาชนะโปร่ง:
- หากมีปริมาณมาก ให้นำมารวมกันเป็นพวงและแขวนในครัว
- หากเป็นจำนวนเล็กน้อย วางในตะกร้าหรือถุงตาข่าย
หลีกเลี่ยงการเก็บในตู้เย็น:
- ความชื้นในตู้เย็นอาจทำให้หอมแดงเกิดเชื้อราและเสียรสชาติ
สำหรับหอมแดงที่ปอกแล้ว:
- เก็บในกล่องสุญญากาศหรือห่อด้วยพลาสติกแรปแล้วแช่ในตู้เย็น
- ใช้ให้หมดภายใน 1-2 วันเพื่อคงความสดใหม่
ถ้ายังไม่จุใจกับสูตรอาหารสามารถเข้าไปดูสูตรอาหารเพิ่มเติมได้ที่ Cookpad