รวมสูตรเค้กง่ายๆ สําหรับมือใหม่ และวิธีแก้ปัญหาเรื่องการอบเค้กที่พบบ่อย
การอบ (และการกิน) เค้กด้วยตัวของคุณเองที่บ้านถือเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งของชีวิต การทำเค้กอาจเป็นเรื่องง่าย แต่ก็มีข้อผิดพลาดทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณหมดกำลังใจและล้มเลิกการอบขนมได้ง่ายๆ วันนี้ Cookpad จะมาพูดถึงวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ สำหรับการทำเค้กกินเองที่บ้าน ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เค้กของคุณไม่ฟูสวย พร้อมไอเดียเมนูเค้กรสชาติต่างๆที่น่าลองทำตาม จะมีอะรบ้างมาดูกัน
ทำไมเค้กถึงไม่ฟู
หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดจากคนที่พึ่งเริ่มอบเค้กครั้งแรก 'ทำไม่เค้กถึงไม่ฟู' มาดูสาเหตุกันก่อนดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนผสมไม่สมดุล
- ใส่แป้งน้อยไป ทําให้แป้งไม่เพียงพอที่จะทําให้เกิดโครงสร้างฟู
- ใส่ไข่น้อยไป ไข่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยยึดเนื้อเค้กให้ฟู
- ใส่เนยน้อยไป เนยช่วยให้เกิดฟองอากาศในเนื้อเค้ก
การอบผิดวิธี
- อบด้วยอุณหภูมิสูงเกินไป ทําให้เนื้อเค้กยุบตัว
- อบนานเกินไป ทําให้ความชื้นระเหยไปมากเกินไป เนื้อเค้กจะกระด้างได้
ส่วนผสมไม่สดใหม่
- ใช้แป้งเก่า ทําให้ประสิทธิภาพของแป้งลดลง
- ใช้เบกกิ้งโซดาเก่า ทําให้ความสามารถในการฟูตัวลดลง
- ใช้ไข่ไม่สด ทําให้โครงสร้างเนื้อเค้กอ่อนแอ
วิธีผสมแป้งไม่ถูกต้อง
- ผสมแป้งนานเกินไป ทําให้โปรตีนในแป้งถูกทําลาย
- ผสมด้วยความเร็วสูงเกินไป ทําให้อากาศถูกตีเข้าไปในแป้งมากเกินไป
วิธีแก้ไขเมื่อเค้กอบแล้วไม่ฟู
1.ปรับสัดส่วนส่วนผสมให้สมดุล โดยเพิ่มปริมาณแป้ง น้ำตาล และไข่ให้มากขึ้น เพื่อให้โครงสร้างเนื้อเค้กแน่นและฟูขึ้น
การปรับสัดส่วนส่วนผสมในการทําเค้กให้สมดุลนั้น มีหลักการดังนี้
- ไข่ ใช้ในปริมาณประมาณ 20-25% ของน้ําหนักแป้ง เช่น ใช้แป้ง 100 กรัม ใช้ไข่ 20-25 กรัม
- น้ําตาล ใช้ในปริมาณเท่ากับหรือมากกว่าน้ําหนักแป้งเล็กน้อย ประมาณ 100-150% ของน้ําหนักแป้ง
- เนย ใช้ประมาณ 50-100% ของน้ําหนักแป้ง
- น้ํามัน ใช้ประมาณ 20-40% ของน้ําหนักแป้ง
- นม ใช้ประมาณ 10-25% ของน้ําหนักแป้ง
ตัวอย่าง แป้ง 100 กรัม
- ไข่ 20-25 กรัม
- น้ําตาล 100-150 กรัม
- เนย 50-100 กรัม
- น้ํามัน 20-40 มล.
- นม 10-25 มล.
สัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้เค้กมีโครงสร้างที่ดีและฟูสวยงามได้
2.ปรับวิธีผสมแป้ง ผสมแป้งให้น้อยลง และอย่าลืมร่อนแป้งเบาๆ และไม่ตีผสมหรือกวนมากเกินไป
3.ปรับวิธีอบ ลองลดอุณหภูมิลง 25-50 องศา เพื่อไม่ให้เกิดการยุบตัว อบจนสุกเท่านั้น ไม่ต้องอบจนแห้งผิดปกติ
ปัญหาในการอบเค้กทั่วไปอื่น ๆ:
ทำไมเค้กหน้าถึงแตก?
ปกติรอยแตกที่อยู่บนหน้าของเค้ก เกิดขึ้นจากอบด้วยอุณหภูมิที่สูงเกินไปหรือวางถาดเค้กไว้อยู่ในชั้นที่สูงเกินไปขณะอบ ซึ่งความร้อนที่สูงเกินพอดีจะทำให้ส่วนตรงกลางของเค้กนั้นฟูขึ้นไวกว่าปกติ จึกทำให้หน้าของเค้กนั้นแตกได้ วิธีแก้ ควรจะอบในอุณหภูมิที่ไม่สูงจนเกินไปโดยใช้อุณภูมิต่ำในการอบและเพิ่มระยะเวลาในการอบให้นานขึ้น (หากในสูตรของเค้กของคุณมีการใส่ผงฟูหรือเบคกิ้งโซดา ก็สามารถทำให้หน้าเค้กแตกได้เช่นกัน)
ทำไมเค้กถึงมียอดแหลมเกิดขึ้นตรงกลาง?
ยอดที่อยู่ตรงกลางเค้กอาจเกิดจากการที่ใส่สารช่วยให้เค้กขึ้นฟูมากเกินไป อุณหภูมิเตาอบที่สูงเกินไป หรือใช้พิมพ์เค้กเล็กเกินไป การปรับแก้ไขปัจจัยเหล่านี้จะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาได้
ทำไมหน้าเค้กถึงยังดูเปียกไม่แห้ง?
เป็นไปได้ว่าเค้กของคุณยังอบไม่เต็มที่ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเปลือกเค้กกลายเป็นสีน้ำตาลเร็วเกินไป จนทำให้ดูเหมือนว่าเค้กสุกก่อนที่ตรงกลางจะสุกทั่วจริงๆ วิธีเช็คใช้ไม้เสียบที่สะอาดแล้วเสียบเข้าไปตรงกลางเค้ก สำหรับเค้กสปันจ์ ไม้เสียบควรออกมาสะอาดหมดจดโดยไม่มีแป้งเกาะด้านข้าง หากเค้กของคุณมีสีน้ำตาลที่ด้านบนแต่ยังไม่สุกตรงกลาง ให้ปิดด้านบนพิมพ์เค้กด้วยกระดาษฟอยล์ ลดไฟลงเล็กน้อยแล้วอบต่อไปจนกว่า ตอนที่เช็คด้วยไม้เสียบแล้วดึงออกจะสะอาดไม่มีอะไรติดไม้ขึ้นมา
สูตรเค้กพื้นฐานง่ายๆ ที่น่าลองทำตามที่บ้าน
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหนในการทำเค้ก เช่น สายสวย ตกแต่งได้สุดน่ารัก / สายอุปกรณ์ สารพัดไอเดีย หรือ มือใหม่ที่พึ่งลองทำครั้ง ก็ร่วมแบ่งปันสูตรเค้กหรือส่ง Cooksnap ในแบบของคุณมาได้เลยน้าา
ถ้ายังไม่จุใจกับสูตรอาหารสามารถเข้าไปดูสูตรอาหารเพิ่มเติมได้ที่